หนังสัตว์หายากของกระเป๋า Hermès
สำหรับแฟนกระเป๋าหนังแบรนด์ดังคงไม่มีใครไม่รู้จักแบรนด์ Hermès ซึ่งเป็นแบรนด์ที่มีกระเป๋าให้เลือกมากมายตั้งแต่หนังยอดฮิตอย่างหนังวัว หนังราคาหลักล้านอย่างหนังจระเข้ไปจนถึงรุ่นดังอย่างกระเป๋า Birkin หนัง Himalayan ที่ราคาเกือบ 4 ล้านบาท ซึ่งหนังแต่ละแบบก็จะมีความพิเศษแตกต่างกันออกไป
และที่สำคัญเรื่องของคุณภาพต้องบอกเลยว่ากระเป๋าของ Hermès นั้นมีมาตรฐานและกระบวนการผลิตที่เข้มงวดที่สุด หนังของกระเป๋าจะต้องไม่มีตำหนิ รอยขีดข่วนและความหมองคล้ำ เพราะวัสดุทุกอย่างต้องผ่านกรรมวิธีการผลิตอย่างพิถีพิถัน กระเป๋าทุกใบของ Hermès จะตัดเย็บด้วยมือโดยใช้หนังเกรดเอเท่านั้น อย่างเช่นหนังจระเข้ก็จะเป็นจระเข้ที่ถูกเลี้ยงในบ่อหินอ่อนเพื่อให้ได้หนังที่เรียบเนียนไม่มีรอยขีดข่วน และจะเลี้ยงบ่อละหนึ่งตัวเท่านั้นเพื่อป้องกันไม่ให้จระเข้กัดกันอีกด้วย
ช่างตัดเย็บทุกคนจะต้องได้รับการฝึกฝนจากโรงงานในฝรั่งเศสอย่างน้อย 3 ปี ก่อนที่จะได้ผลิตกระเป๋าซึ่งกระเป๋าแต่ละใบจะใช้เวลาประมาณ 48 ชั่วโมง และด้วยคุณภาพของหนังและฝีมือการตัดเย็บที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจึงทำให้ Hermès ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่ราชวงศ์และชนชั้นสูงของฝรั่งเศส ส่วนใหญ่แล้วในบรรดากระเป๋าของ Hermès หลายคนมักจะคุ้นเคยกับหนังวัวเป็นพิเศษแต่ในวันนี้เราจะมารู้จักกับหนังสัตว์หายากหรือหนัง Exotic ที่จะนำมาทำเป็นกระเป๋า Hermès นอกจากหนังยอดฮิตอย่าง Epsom หรือ Togo แล้วยังมีหนังหายากชนิดไหนอีกบ้างที่เป็นปัจจัยทำให้ราคาของกระเป๋า Hermès นั้นโหดขนาดนี้
หนัง Himalayan ชื่อที่มาจากโทนสีควันบุหรี่ไล่ไปจนถึงสีขาวไข่มุกของกระเป๋าซึ่งจะดูเหมือนหิมะที่ปกคลุมอยู่บนยอดภูเขา เป็นหนังที่ราคาสูงและหายากมากอีกด้วย
หนัง Lizard หรือตะกวด เป็นหนังที่มีความ Exotic ทำมาจากหนังของตะกวดในแถบแอฟริกันซึ่งเป็นหนังที่แห้งง่ายถ้าไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างถูกวิธี
หนัง Ostrich หรือหนังนกกระจอกเทศเป็นวัสดุที่มีความทนทานมากที่สุดของประเภทหนังของ Hermès สามารถทนต่อน้ำได้แต่จะทำให้สีเข้มขึ้นเมื่อสัมผัสกับน้ำมันที่ผิว
Matte Alligator หนังที่มีความละเอียดอ่อนและราคาแพงซึ่ง Hermès จะใช้จระเข้ที่เลี้ยงในฟลอริดาในการทำหนังชนิดนี้ขึ้นมาและหนังแบบผิวด้านจะมีค่าใช้จ่ายมากกว่าหนังที่มีความเงา
Matro Niloticus Crocodile หนังจระเข้ Niloticus จากแม่น้ำไนล์ซึ่งจะมีราคาแพงกว่าหนังประเภทมันเงาด้วยกันโดยปกติแล้วหนังจระเข้จะค่อนข้างทนทานแต่ไม่ควรให้โดนน้ำเพื่อป้องกันไม่ให้ลายจางหาย
Matro Porosus Crocodile เป็นหนังจระเข้ที่ถูกเลี้ยงในออสเตรเลีย เป็นหนังแบบด้านที่ราคาแพงกว่าหนัง Niloticus จึงทำให้หนัง Matro Porosus Crocodile ราคาแพงที่สุดและควรดูแลไม่ให้โดนน้ำเพื่อป้องกันไม่ให้สีซีด