5 วิธีดูหนังแท้กับหนังเทียม
การเลือกดูหนังแท้หรือหนังเทียมถือว่าเป็นเรื่องสำคัญมากเพราะเป็นปัญหาที่เจอบ่อยในปัจจุบันและหลายๆ คนมักจะมีคำถาม เพราะการที่เรารู้ว่าเป็นหนังชนิดไหนจะทำให้มีผลต่อการตัดสินใจซื้อของเราด้วยและวิธีการดูหนังแท้หรือหนังเทียมก็มีมากมายหลายวิธีวันนี้เราจะมาบอกวิธีการดูง่ายๆ ให้ทราบกันค่ะ
บอกได้เลยว่าคนที่ใช้เครื่องหนังต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น กระเป๋าหนัง, สายนาฬิกาหนัง, ร้องเท้าหนัง หรือเข็มขัดหนัง 90% จะต้องเคยโดนถามว่าดูหนังแท้เป็นไหม? ซึ่งอันนี้ก็ต้องแล้วแต่ประสบการณ์ของแต่ละคนด้วยว่าซื้อกระเป๋ามาแล้วกี่ใบหรือศึกษามามากน้อยแค่ไหน และหลายๆ คนอาจจะยังไม่แน่ใจว่ากระเป๋าที่ซื้อมานั้นเป็นหนังแท้หรือหนังเทียมที่สังเคราะห์ขึ้นมา นอกจากนี้เกือบทุกร้านที่เราไปซื้อก็มักจะบอกว่าเป็นหนังแท้แต่ที่มีราคาถูกเพราะมีต้นทุนในการผลิตที่ต่ำนั่นเอง ปัจจุบันนี้ได้มีหนังที่เรียกกันว่า Microfiber ซึ่งนำเข้ามาจากประเทศจีนและทำออกมาได้เหมือนกับกระเป๋าหนังแท้มากทั้งลวดลายและสี จนช่างทำเครื่องหนังบางคนยังพลาดได้ต่อไปนี้จะเป็นวิธีสังเกตหนังแท้และหนังเทียมแบบง่ายๆ
หนังแท้ คือหนังที่ฟอกมาจากหนังสัตว์แล้วนำมาทำเป็นเครื่องหนังต่างๆ เช่น กระเป๋า เข็มขัด สายนาฬิกา เป็นต้น โดยหนังแท้จะมีทั้งหมด 3 ประเภท
Full Grain เป็นหนังชั้นบนสุดที่ไม่มีการเจียระไนผิวหรือลวดลายออกเลย
Top Grain หนังชั้นบนที่ผ่านการขัดเอาตำหนิออกจนทำให้หนังนิ่มแต่ลวดลายของหนังอาจจะหายไปบ้าง
Suede หรือหนังกลับ เป็นหนังชั้นบนที่โดนขัดโดยเครื่องจักรจนทำให้ขึ้นขนนิ่ม
วิธีการดูหนังแท้
มีลายละเอียดบนหนังที่ไม่ซ้ำกัน หนังสัตว์ธรรมชาติจะต่างจากหนัง PU หรือ Microfiber ตรงที่หนังแท้จะมีรายละเอียดที่ไม่ซ้ำกันในแต่ละจุด รอยยับ รอยย่น หรือรอยแผลเป็นที่มีขนาดไม่เท่ากันเพราะในธรรมชาติหนังสัตว์ก็จะคล้ายกับหนังของคนที่จะมีลายหรือจุดไม่เหมือนกัน โดยส่วนใหญ่หนังที่ใช้ผลิตกระเป๋าในเมืองไทยมักทำมาจากหนังวัวเพราะมีจำนวนมาก
การปั๊ม Logo บนกระเป๋า เนื่องจากหนังเทียมจะทนความร้อนได้ไม่เท่าหนังแท้พอโดนความร้อนสูงๆจึงเกิดการแตกตัวของชั้นผิวอย่างเห็นได้ชัด แตกต่างจากหนังแท้ที่ทนความร้อนได้ดีดังนั้นหากมองเห็นการปั๊ม Logo ลงบนกระเป๋าเป็นไปได้ว่าจะเป็นหนังแท้
คืนตัวยาก ไม่ว่าจะหนังวัว หนังแกะ หรือหนังควายก็มีรอยย่นได้เสมอหากมีการงอหรือพับนานๆ จะสังเกตได้ว่าตรงไหนที่เป็นรอยพับของกระเป๋าจะเป็นรอยชัดมากแต่ตัวกระเป๋าจะไม่แตกหรือลอกหากมีการหักหรืองอแต่อาจจะใช้เวลานานในการคืนตัว ส่วนหนังเทียมจะสามารถกลับมาเหมือนเดิมได้อย่างรวดเร็วเมื่อมีการพับหรือหักเพราะผลิตมาจากสารเคมีที่มีความยืดหยุ่นสูง
ใช้ความร้อนจากไฟเผา หากเป็นหนังแท้จะทนไฟได้ในระดับหนึ่งแต่พอโดนความร้อนมากๆ อาจเกิดการหงิกและมีกลิ่นหนังไหม้ แต่หนังเทียมพอโดนความร้อนจะละลายและมีกลิ่นของสารเคมี
เปรียบเทียบราคากระเป๋า กระเป๋าหนังแท้มักมีราคาที่สูงกว่ากระเป๋าหนังเทียมมากเนื่องจากมีต้นทุนที่สูงกว่า และถึงแม้ว่าจะมีขนาดเท่ากันแต่ราคาของหนังแท้ก็จะแพงกว่าหนังเทียมถึง 3 เท่า